น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2567 เรื่อง….ปังๆปังๆ ขนมปังมีกี่ประเภท ? 1. ขนมปังผิวแข็ง  (Hard Bread/Lean Type Dough)ขนมปังนี้มีปริมาณน้ำตาลร้อยละ 0-2 และไขมันร้อยละ 0-3 ของน้ำหนักแป้งทั้งหมดในสูตร เป็นขนมปังที่มีลักษณะผิวและเนื้อขนมปังค่อนข้างแข็ง ได้แก่ ขนมปังฝรั่งเศสขนมเวียนนา ขนมปังอิตาเลียน ซึ่งมีรูปร่างเป็นท่อนกลมยาวหรือสั้น ถ้าเป็นก้อนกลมเรียกว่า ฮาร์ดโรล (HardRoll) ขนมปังประเภทนี้จะใช้แป้งที่มีปริมาณโปรตีนสูงเพื่อทนต่อการหมัก การพักตัว และการขึ้นฟูของโด.2.ขนมปังปอนด์  (Loaf Bread)ขนมปังนี้มีปริมาณน้ำตาลร้อยละ 3-10 และไขมันร้อยละ 3-6 ของน้ำหนักแป้งทั้งหมดในสูตร เป็นพวกขนมปังจืดต่าง ๆ มักใช้ทำแซนวิชชนิดต่าง ๆ ทำรูปร่างเป็นแท่งโดยใช้พิมพ์ขนาดยาวแคบ เพื่อบังคับรูปร่างและปริมาตรของโดให้เสมอกันทั้ง 2 ด้านเนื้อละเอียดนุ่มกว่าชนิดแรก ได้แก่ ขนมปังปอนด์แบบแถว หรือแบบหัวกะโหลก.3.ขนมปังซอฟโรล (Soft Roll)ขนมปังนี้มีปริมาณน้ำตาลร้อยละ 10-15 และไขมันร้อยละ 6-10 ของน้ำหนักแป้งทั้งหมดในสูตร ทำจากโดที่มีความเข้มข้นสูง ทำจากแป้งที่มีปริมาณโปรตีนปานกลาง ขนมปังที่อบได้จะมีรสหวาน นุ่ม และเนื้อละเอียด ได้แก่ ขนมปังใส่ไส้ชนิดต่าง…

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 6 อาหารบำรุงสุขภาพ..สร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลจากโรค1. ผลไม้ตระกูลมะนาว หรือผลไม้กลุ่มซิตรัส ไม่ว่าจะเป็นมะนาว, ส้ม, เสาวรส ฯลฯ ถือเป็นผลไม้ประเภทที่มีวิตามินซีสูงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี2. ผักและผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนเบต้าแคโรทีน เป็นสารอาหารสำคัญที่พบได้ในมันหวาน, แครอท, ปวยเล้ง, ผักกาดหอม, บร็อคโคลี่, พริกหยวกแดง ฯลฯ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยทำหน้าที่ในการยับยั้งอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันป้องกันความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็งหลายชนิด3. กระเทียม มีสารต้านแบคทีเรียรวมไปถึงเชื้อไวรัส ทำให้เมื่อรับประทานแล้ว สารอาหารในกระเทียมจะทำหน้าที่ในการดักจับเชื้อโรคต่างๆ และยังมีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิดเพื่อช่วยบำรุงร่างกาย4. เห็ด โพแทสเซียมในเห็ดเป็นตัวช่วยสำคัญในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสต่างๆนอกจากนี้ยังช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายสมดุลส่งผลให้ไม่เกิดภาวะความดันโลหิตสูงและช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญในร่างกายได้เป็นอย่างดี5. อัลมอนด์ เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยประโยชน์นานัปการ ทั้งโปรตีน ใยอาหาร วิตามินอี แมกนีเซียมหากรับประทานเป็นประจำก็จะช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเพราะในอัลมอนด์มีสารต้านอนุมูลอิสระที่คอยยับยั้งการเจริญโตของเชื้อโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี6. โยเกิร์ต ในโยเกิร์ตจะมีโปรตีนชั้นดีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับรับประทานในช่วงควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายแล้ว โยเกิร์ตยังมีแลคโตบาซิลัสหรือแบคทีเรียชั้นดีที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายไม่ให้เจ็บป่วยได้ง่าย

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือน ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2568 หัวข้อ : ดิน (Soil) ดินเป็นองค์ประกอบสำคัญของผืนแผ่นดินที่เราใช้ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกพืช หรือเป็นฐานรากของอาคารที่อยู่อาศัย ในทางวิทยาศาสตร์ “ดิน” หมายถึง เทหวัตถุทางธรรมชาติที่เกิดจากการสลายตัวของหินและแร่ธาตุ ผสมผสานกับอินทรียวัตถุจนกลายเป็นชั้นบาง ๆ ที่ปกคลุมผิวโลก ดินทำหน้าที่หล่อเลี้ยงและค้ำจุนการเจริญเติบโตของพืช อีกทั้งยังมีการแบ่งชั้นและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถจำแนกดินออกได้หลากหลายชนิด

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ทำไมถึงควรทาน “ถั่วเน่าญี่ปุ่น” นัตโตะหรือถั่วเน่า เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ทำจากถั่วเหลืองหมัก มีลักษณะเหนียวหนืด และมีกลิ่นเฉพาะตัว เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน โปรโบไอติก ใยอาหาร นอกจากนั้นยังมีคุณค่าทางโภชนาการ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ทำให้กระดูกแข็งแรง รวมถึงทำให้หัวใจและระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2567 โรคของหนุ่มสาวออฟฟิศ “ปวดกล้ามเนื้อ” MFD (Myofascia Pain Syndrome)โรคที่มีอาการของกล้ามเนื้อเป็นหลัก ซึ่งจะคลำ ๆ ได้เป็นก้อน ตึงภายในกล้ามเนื้อหรือเยื่อพังผืดมักเกิดขึ้นเพราะทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน อาการแสดงของ MFS– ปวดบริเวณหัวไหล่ แขน และมือ โดยมีต้นเหตุ คือ จุดกดเจ็บ บริเวณกล้ามเนื้อสะบัก– มีอาการผิดปกติของระบบประสาท เช่น มือซีด เย็น รู้สึกเหมือนมดไต่ตลอดเวลา สาเหตุของการเกิดการปวดกล้ามเนื้อ MFS– ใช้กล้ามเนื้อหนักเกินไป เช่น เล่นเกม ใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น การรักษา MFS ทำได้โดย– การรักษาที่จุดกดเจ็บ– การใช้เครื่องมือทางกายภาพอาทิ การใช้แผ่นร้อน คลื่นเสียงและคลื่นไฟฟ้าที่มีความถี่สูง การนวด การฉีดยา เป็นต้น– หมั่นดูแลรักษากล้ามเนื้อโดยระวังท่าทางในชีวิตประจำวัน

ทักษะที่สำคัญในการใช้ชีวิตและการทำงานในศตวรรษที่ 21 เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่มีทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการและประสบความสำเร็จ ได้แก่ ทักษะ ดังนี้1. ทักษะทางด้านการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงเพื่อตัดสิน และแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking and Problem Soling)2. ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ใช้ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาในสิ่งใหม่ ๆ อย่างมีคุณค่า (Creativity and Innovation)3. ทักษะด้านความเข้าใจความแตกต่างของบุคคลและยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cross-Cultural Understanding)4. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และมีภาวะผู้นำ โดยการเปิดใจ เปลี่ยนแปลง และปรับตัว (Collaboration, Teamwork and Leadership)5. ทักษะด้านสื่อสารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy)6. ทักษะด้านอาชีพและทักษะการเรียนรู้ สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ต่าง ๆ มีความยืดหยุ่น รับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเอง (Career and Learning Skills)