การบริการที่ดีสู่ความเป็นเลิศ

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เนื้อวัวแต่ละประเทศ มีความแตกต่างกันอย่างไร 1.เนื้อวัวญี่ปุ่น ได้รับการเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถัน กินอาหารคุณภาพสูง นวดผ่อนคลาย และดื่มเบียร์เป็นอาหาร จึงทำให้เนื้อวัวญี่ปุ่นมีไขมันแทรกมากกว่าวัวสายพันธุ์อื่น ทำให้เนื้อวากิวหรือโกเบ นุ่ม ชุ่มฉ่ำ และมีรสชาติเข้มข้น 2.เนื้อวัวออสเตรเลีย มีการเลี้ยงดู 2 แบบ คือ เลี้ยงด้วยหญ้าธรรมชาติ เนื้อวัวแบบนี้จะมีไขมันน้อยดีต่อสุขภาพผู้บริโภค และการเลี้ยงด้วยธัญพืชล้วนๆ จึงทำให้เนื้อมีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อน เนื้อนุ่ม ละมุนลิ้น และมีรสชาติที่กลมกล่อม 3.เนื้อวัวไทย มีการเลี้ยงดูแบบปล่อยในฟาร์ม กินหญ้าและธัญพืชเป็นอาหาร แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศ และพืชผักต่าง ๆ ทำให้คุณภาพของเนื้อวัวไทยอาจจะยังไม่เทียบเท่ากับต่างประเทศ ทำให้ราคาถูกกว่า ซึ่งเนื้อวัวไทยมีไขมันแทรกปานกลาง เนื้อนุ่ม และมีรสชาติเข้มข้น โดยเฉพาะเนื้อโคขุนโพนยางคำ 4.เนื้อวัวอเมริกา และมีชื่อ USDA นำหน้ามาแสดงว่า เป็นเนื้อที่ผ่านการคัดกรองเรื่องคุณภาพจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา ซึ่งเนื้อวัวอเมริกาส่วนใหญ่เป็นลูกผสมของ Angus กับ Hereford เป็นวัวอารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดเนื้อเลยนุ่มอร่อย รสชาติเยี่ยม จึงเป็นเนื้อที่มีราคาแพง

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือน ประจำวันที่ 21 กันยายน 2568 หัวข้อ ศิลปะการเสิร์ฟรสชาติ Omakase ญี่ปุ่นเหนือระดับ การรังสรรค์เมนูตามใจเชฟที่ผสานความสดใหม่ พิถีพิถัน และศิลปะบนจาน ถ่ายทอดวัฒนธรรมญี่ปุ่นสู่ประสบการณ์การลิ้มรสอันประณีตเหนือระดับ

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 30 มกราคม 2568 ของใช้ในครัวต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน? 1. อุปกรณ์ที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง เช่น ทัพพี ตะหลิว หม้อ กระทะ มีด เขียง โถปั่น ฯลฯ ควรทำความสะอาดทันทีหลังจากใช้งาน เพื่อป้องกันคราบเหนียว คราบมัน และรอยไหม้ติดอยู่ที่อุกกรณ์ ซึ่งจะทำให้ความสะอาดได้ยาก และ เป็นการป้องกันเชื้อโรคและการปนเบื้อนของอาหารในการใช้งานครั้งถัดไป 2. พื้นที่เตรียมและประกอบอาหาร เช่น เตาแก๊ส โต๊ะทำอาหาร เคาท์เตอร์ครัว ควรทำความสะอาดอย่างน้อย วันละ 1 ครั้ง เนื่องจากเป็นจุดที่มีคราบสกปรก ฝุ่น ควัน จากการประกอบอาหาร ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคจึงควรทำความสะอาดทุกวัน 3.อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เช่น ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาอบ ฯลฯ ควรทำความสะอาบอย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเชื้อแบคทีเรีย เข้ามาปะปนในอาหาร 4. ตู้เก็บเครื่องปรุง ตู้เก็บวัตถุดิบแห้ง และ…

น้ำมันที่ใช้ในการทอดอาหาร ควรเป็นน้ำมันที่มีจุดเกิดควัน (smoking point) สูง คือ ไม่เกิน 180 องศาเซลเซียส เนื่องจากน้ำมันที่มีจุดเกิดควันต่ำ หากใช้ไฟแรงและนานจะเกิดควันซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง หากผัดหรือทอดอาหารที่ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที สำหรับการประกอบอาหารที่ไม่ต้องใช้ความร้อน สามารถใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าวได้ ในปัจจุบันไม่นิยมใช้น้ำมันถั่วเหลืองในการทอด เนื่องจากน้ำมันถั่วเหลืองมีจุดเกิดควันต่ำ ทำให้เกิดควันขึ้นมาก และมีโอกาสที่จะเป็นสารก่อมะเร็งได้

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือนประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 “ภาวะต่อมหมวกไตล้า โรคยุคใหม่ของคนวัยทำงาน” “ภาวะต่อมหมวกไตล้า” เป็นอาการผิดปกติของร่างกายซึ่งเกิดจาการขาดสมดุลฮอร์โมนกลุ่มต่าง ๆ ที่ผลิตจากต่อมหมวกไต สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงานได้ เพราะทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ บางรายอาจทำให้มีภาวะซึมเศร้า สาเหตุเกิดจากการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย รับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ทานข้าวเช้า ทานข้าวไม่เป็นเวลา ทานอาหารประเภทของทอด ของมัน และน้ำตาลเยอะเกินไป และความเครียดจากเรื่องราวต่าง ๆ อาการที่บ่งบอกว่ามีภาวะต่อมหมวกไตล้า ได้แก่ ตื่นเช้ายาก ตอนกลางวันง่วง ปัสสาวะบ่อยเกินไป เครียดง่าย อารมณ์แปรปรวน ฯ วิธีการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม1 ลดความเครียด2 นอนหลับพักผ่อน อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน3 ออกกำลังกาย4 รับประทานอาหารที่ดี #โรงเรียนการเรือน#มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้ โรงเรียนการเรือนประจำวัน วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เรื่อง รูปแบบการบริการบนโต๊ะที่แตกต่างกัน 1. บริการแบบเงินอย่างเป็นทางการ จะเป็นการบริการโดยพนักงานเสิร์ฟจำนวนมาก ที่นำอาหารแต่ละคอร์สมาเสิร์ฟบนโต๊ะในจานแยกแต่ละจาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกรายละเอียดของประสบการณ์การรับประทานอาหารจะได้รับการใส่ใจอย่างพิถีพิถัน เช่น ซอมเมลิเยร์ของร้านอาหารอาจมีส่วนร่วมในการเสิร์ฟ โดยจับคู่ไวน์กับอาหารแต่ละคอร์สอย่างเชี่ยวชาญ และอธิบายเหตุผลเบื้องหลังการเลือกสรร2. บริการแบบฝรั่งเศส เป็นรูปแบบที่เป็นทางการและสง่างาม เพิ่มองค์ประกอบของการมีปฏิสัมพันธ์ให้กับประสบการณ์การรับประทานอาหาร และสร้างความประทับใจในการรับประทานอาหารแบบเหนือระดับ โดยมี 2 ประเภทหลัก ๆ คือ แบบรถเข็น ซึ่งก็คือการเตรียมอาหารข้างโต๊ะ และแบบจัดเลี้ยง ซึ่งก็คือการเตรียมอาหารในครัว3. บริการแบบรัสเซีย เป็นรูปแบบการบริการแบบโต๊ะอย่างเป็นทางการนี้คล้ายกับบริการแบบฝรั่งเศส ยกเว้นอาหารทั้งหมดจะเสิร์ฟทางด้านซ้ายมือของลูกค้า อีกหนึ่งความแตกต่างที่สำคัญ คือ อาหารจะถูกกำหนดให้เสิร์ฟแบบร้อนๆ พนักงานจะนำอาหารจานใหม่มาเสิร์ฟบนโต๊ะอย่างต่อเนื่อง